ความรักเหมือนโรคา
บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล
อุปสรรคใดใด
ความรักเหมือนโคถึก
กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดออกจากคอกไป
บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
ถึงหากจะผูกไว้
ก็ดึงไปด้วยกำลัง
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง
บ หวนคิดถึงเจ็บกาย
มัทนะพาธา เป็นบทละครพูดคำฉันท์ 5 องก์ ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น เมื่อ พ.ศ.2466 วรรณคดีสโมสรยกย่องว่า เป็นหนังสือแต่งดี เพราะละครพูดคำฉันท์เป็นของแปลกในกระบวนวรรณคดี แต่งได้ยาก และยังไม่เคยมีกวีคนใดแต่งมาก่อน อีกประการหนึ่ง คือ การปรุงชื่อตัวละคร และภูมิประเทศ ถูกต้องตามยุคแห่งภารตวรรษ อันเป็นตัวเรื่อง นับว่ารูปเรื่องปรุงดี เรื่องสำเร็จได้ด้วยพระปรีชาสามารถ และสุตาญาณ อันกว้างขวาง
สุเทษณ์ : รักจริงมีจริงฤก็ไฉน อรไทบ่แจ้งการ
มัทนา : รักจริงมีจริงก็สุระชาญ ชยะโปรดสถานใด
สุเทษณ์ : พี่รักและหวังวธุจะรัก และบทอดบทิ้งไป
มัทนา : พระรักสมัคร ณ พระหทัย ฤจะทอดจะทิ้งเสีย?
สุเทษณ์ : ความรักละเหี่ยอุระระทด เพราะมิอาจจะคลอเคลีย
มัทนา : ความรักระทดอุระละเหี่ย ฤจะหายเพราะเคลียคลอ
สุเทษณ์ : โอ้โ๋อ๋กระไรนะมะทะนา บมิตอบพะจีพอ?
มัทนา : โอ้โอ๋กระไรอะมระง้อ มะทะนามิพอดี
ไม้เรียกผะกากุพ-......... ชะกะสีอรุณแสง
ปานแก้มแฉล้มแดง........ดรุณี ณ ยามอาย
ดอกใหญ่และเกสร.........สุวคนธะมากมาย
อยู่ทน บ วางวาย............มธุรสขจรไกล
อีกทั้งสะพรั่งหนาม.........ดุจะเข็มประดับไว้
ผึ้งเขียวสิบินไขว่............บ่มิใคร่จะห่างเหิน
มัทนา มาจากศัพท์ มทน แปลว่า ความลุ่มหลงหรือความรัก
มัทนะพาธา หมายถึง ความเจ็บปวดและความเดือดร้อนเพราะความรัก
อ้าอรุณแอร่มระเรื่อรุจี
ประดุจมโนภิรมย์ระตี..... ณ แรกรัก
แสงอะรุณวิโรจน์นะภาประจักษ์
แฉล้มเฉลาและโสภินัก..... นะฉันใด
หญิงและชาย ณ ยามระตีอุทัย
สว่าง ณ กลางกมลละไม..... ก็ฉันนั้น
แสงอุษาสะกาวพะพราว ณ สรรค์
ก็เหมือนระตีวิสุทธิอัน..... สว่างจิต
อ้าอนงคะเชิญดำเนิรสนิธ
ณ ข้าตะนูประดุจสุมิตร..... มโนมาน
ไปกระทั่ง ณ ฝั่งอุทกจีระธาร
และเปล่งพจี ณ สัจจะการ..... ประกาศหมั้น
ต่อพระพักตร์สุราภิรักษะอัน
เสด็จสถิต ณ เขตอะรัณ -..... ยะนี่ไซร้
ว่าตะนูและน้องจะเคียงคระไล
และครองตลอด ณ อายุขัย..... บ่คลาดคลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น